Seoul 1529765602576

ฤดูร้อนที่แล้วที่เกาหลี Rediscover my Seoul

เคยไปเที่ยวเกาหลีเมื่อหลายปีก่อนครับ ครั้งนั้นไปตอนฤดูหนาว ทริปนั้นเกิดขึ้นเพราะเพื่อนกลุ่มใหญ่อยากไปกัน พอจะจำได้ลาง ๆ ว่าเราเป็นเพียงส่วนน้อยในกลุ่มที่ออกความคิดเห็นเกี่ยวกับทริปนี้ เลยอยู่เงียบ ๆ ในกรุ๊ป คอยเออออห่อหมกกับเพื่อนคนอื่น ๆ ไป เค้าหาข้อมูล ออกความคิดเห็น เขียนโปรแกรมคร่าว ๆ จองกัน คิดแค่ว่าเดี๋ยวพอซักพักเป็นรูปเป็นร่างก็ดีเอง บางทีเที่ยวตามคนอื่นบ้าง ก็สนุกดีเหมือนกัน ไม่ต้องคาดหวังอะไรมากนัก สุดท้าย 1 สัปดาห์ก่อนทริปมาถึง จากกรุ๊ป 10 คนเหลือเพียง 3 คนและหนึ่งในนั้นคือตัวข้าพเจ้าเองและเพื่อนอีก 2 คนและทุกอย่างจองไว้หมดแล้ว หากจะยกเลิกคือเสียเปล่าเท่านั้น แอบขำตัวเองในความกล้านี้นะ และหลังจากทริปก็เป็นความทรงจำที่ดี ใช้มาเป็นเรื่องเล่าฮา ๆ ป่วง ๆ ของทริปเกาหลีได้เลยแหละ เป็นโซลในฝัน เป็นเมืองที่อยากกลับไปอีกเรื่อย ๆ

และแล้วทริปเกาหลีรอบ 2 ก็เกิดขึ้นในวันที่หนึ่งในผู้ร่วมทริปคือพี่อั๋นเจ้าของเพจ On a journey ตะลอนไปทั่ว ตัดสินใจใช้ voucher ค่าตั๋วเครื่องบินและโรงแรมที่ได้จากงาน Traveloka ไปกับการซื้อตั๋วแอร์เอเชียเอ็กซ์ไป-กลับ DMK-ICN-DMK ซึ่งนั่นก็หมายความว่า พวกเราที่อยากตามไปเที่ยวด้วยก็จะไปเกาหลีกับนางนั่นเอง แว้บแรกแอบกลัวว่าเกาหลีที่เราเคยไปเป็นฤดูหนาว แบบขนเฟอร์แบบผ้าพันคอแบบต้องพกถุงร้อนติดตัว คราวนี้เช็คดูแล้วเป็นฤดูร้อน อากาศอาจเย็นหน่อยแต่คนไทยไปอาจรู้สึกหนาว คิดในใจถึงความแปลกของทริป เออไม่เคยไปเกาหลีฤดูร้อน เออน่าไป แปลกดี [ไป 27 เมษายน – กลับ 2 พฤษภาคม]

เคยมีคนกล่าวเอาไว้ว่า no plan is a good plan พวกเราก็เช่นกัน ทริปนี้เตรียมตัวกันน้อยมาก อ่านไปบ้างว่าอยากไปเที่ยวไหน อยากกินอะไร และประกอบกับที่ทุกคนเคยไปเกาหลีกันมาหมดแล้ว ไปแบบไม่มีแผนอะไรเนี่ยแหละลุ้นดี วันเดินทางคนที่แอบนอยด์ไม่ใช่ซัน โจที่เป็นคนตามไปทริปด้วยหรอกนะ แต่เป็นพี่อั๋นเพราะนางเคยถูกกักอยู่ในห้องเย็นมาแล้วเมื่อครั้งก่อนแต่ก็ผ่านไปด้วยดี หนนี้พนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีปราณีนาง อีกหนึ่งสมาชิกที่บินตรงมาจากญี่ปุ่นเป็นน้องชายของโจที่มาร่วมชะตากรรมในทริปเกาหลีฤดูร้อนนี้ พวกเรานัดเจอกันที่แอร์พอร์ตก่อนจะเดินทางไปโฮสเทลที่จองไว้ในโซล พอรวมตัวกันได้พวกเราก็นี่เลย มองหา GS25 – GS 리테일 เพื่อซื้อบัตร T-Money เติมเงินเอาไว้เดินทางทั่วโซลกัน หลัก ๆ คงเป็นรถเมล์ [จากแอร์พอร์ตไปโฮสเทลไปรถเมล์คุ้มสุด ถูกและได้นั่งพัก มีที่เก็บกระเป๋า สิริรวมก็ประมาณ 1 ชั่วโมงนะ] กับรถไฟฟ้าใต้ดินแหละ อย่างที่บอกทริปนี้ อยากไปไหน อยากกินอะไร อยากทำอะไรก็หาทางไป กิน ทำกันเลย ณ จุดนั้น ความสนุกเลยอยู่ที่ทุกอย่างเป็น surprise หมดเลย เป็นอะไรที่ดิบและไม่ต้องคิดมาก สรุปก็พอจะรวม ๆ สถานที่เที่ยวต่าง ๆ มาให้ดูโดยเน้นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้โดยทางรถไฟฟ้าใต้ดินเท่านั้น

Shopping เดินดูของ อัปเดตย่านดังของเกาหลี พวกเราก็ไม่พลาดย่านสำคัญอย่างเมียงดง Myeong-dong (명동) ย่านฮงแดหรือมหาวิทยาลัยฮงอิก Hongdae or Hongik University Street (홍대) หรือแม้แต่พวกเราก็ไปเฉียดนะ 555 บางย่านที่ไม่ได้เขียนไว้แต่ไปเพราะเป็นทางผ่านก็มีนะ เช่น ย่านที่เราไปในคืนสุดท้ายก่อนกลับคือดีมาก คือตรงสถานี Express bus terminal station เสื้อผ้า กระเป๋า สินค้าแฟชั่นถูกมากเลยแหละ เช่น กระเป๋าถือราคา 10,000 วอนเท่านั้น เหมาเลยจ้า

และเนื่องจากทริปนี้เป็นทริปสายบุญด้วย พี่อั๋นเลยขอไปวัดเยอะหน่อย ก็ไม่ว่ากัน จริง ๆ ก็กลัวแกลาบวชชีเหมือนกันเพราะแกขอไปรีทริปทั้ง 2 วัดที่ไปด้วยนะ ไม่ใช่แค่ถ่ายรูปนางไปนั่งสมาธิและขอหวยจ้า นางบอกนางฝัน ตามใจนางละกัน วัด 2 วัดที่ไปคือ วัดบงกึนซา Bongeunsa Temple (봉은사 (서울) หรือวัดพระใหญ่และวัดเก่าแก่โชเกซา Jogyesa Temple (조계사) ช่วงที่ไปมีงานโคมไฟ ก็เป็นสีสันดี ที่อื่นที่ไปก็เก็บทั้ง Namsan Seoul Tower (남산서울타워) ไปพระราชวังเคียงบกกุง Gyeongbokgung Palace (경복궁) แล้วก็ไปเดินหมู่บ้านโบราณ Bukchon Hanok Village (북촌한옥마을) แต่ละที่นอกจากดู เดินหามุมถ่ายรูปสวย ๆ หาของกินอร่อย ๆ แล้วก็พยายามเปรียบเทียบกับซีรีส์เกาหลีที่เคยดูด้วยนะว่าพระเอกกับนางเอกเคยแว้บ ๆ มาให้เห็นในฉากแบบนี้หรือเปล่า ฮาอยู่หน่อยก็ตรงที่เพราะไม่เคยมาเกาหลีฤดูร้อน ค้นพบว่าอากาศเป็นแบบบ้านเรามาก อาจไม่ร้อนเท่าแต่แดดจ้าทุกวันและเสื้อผ้าครึ่งกระเป๋าเป็นแบบ winter จ๋ามาก เป็นถุงมือ เป็นผ้าพันคอ เป็นเสื้อขนเป็ด บอกเอาไว้เลย ไม่ได้ใช้สักตัวจ้า แต่งแบบ spring แบบฤดูหนาวใกล้หมดอะไรเทือกนี้จะเก๋มากหากใครจะมาช่วงนี้ เพราะทุกวัน เหงื่อแตกจ้า ร้อนเลย หนาวแค่ตอนลมพัดตอนเช้าไม่ก็ตอนกลางคืนถ้าออกไปเปรี้ยวแค่นั้นเอง สำหรับทริปนี้พวกเราไปย่านอิแทวอนแว้บ ๆ พอหอมปากหอมคอไม่หนักมากแล้วปิดท้ายด้วยปิ้งย่างเกาหลีเช่นเคย

มีอยู่วันนึงพวกเราตัดสินใจไปไกลหน่อย ไปซูวอน ไปดูเมืองเก่า ไปดูป้อม Suwon Hwaseong Museum (수원화성박물관) ก็สวยดี หรือที่กำลังดังในโซเชียลเรื่องสถานที่ถ่ายรูปก็นี่เลย Ewha Womans University (이화여자대학교) ที่นอกจากไปถ่ายรูปมหาวิทยาลัยสวย ๆ รอบ ๆ ก็มีถนนให้เดินซื้อของ มี Line Friends มีวาฟเฟิลมีบิงซูอร่อย ๆ จริง ๆ ใครที่ชอบเป็น cafe hopper นี่น่าจะชอบเกาหลีนะ เพราะร้านกาแฟเค้ามีหลายแบรนด์มากและก็เยอะไปหมด เลือกตามใจชอบได้เลยว่าอยากไปสัมผัสบรรยากาศหรือจิบกาแฟ ชิมเค้กอร่อย ๆ จากแบรนด์ไหน

และที่อยากแนะนำเป็นที่สุด ในทริปนี้พวกเราหาทางไปชิลริมแม่น้ำฮันหรือ Hangang River (한강) กันมาด้วยถึง 2 วันนะ จำได้ว่าวันแรกเดินไกลมาก และเราเจ็บเท้ามาก พี่อั๋นก็วิ่ง 100 เมตรเกือบไม่รอดที่สี่แยกไฟแดง แต่วิวที่เจอ มาม่าเกาหลีและโซจูก็ช่วยให้พวกเราลืมความเสี่ยงนั้นไปได้นะ วันที่สองเพราะพี่อั๋นนัดเจอกับเพื่อนรุ่นน้องที่มาเรียนปริญญาเอกที่เกาหลีไว้ [พี่ลักษณ์ นางสวย พูดเก่ง ใจดีเป็นไกด์กิตติมศักดิ์ และพาไปเลี้ยงที่ร้านบุฟเฟต์เกาหลีปิ้งย่างสุดป๊อบด้วยนะ] พวกเราเลยนัดเจอกันที่ริมแม่น้ำฮันเช่นเคย แต่เปลี่ยนจุด ความพิเศษคือจุดที่เจอกันจะมีการแสดงสะพานสายรุ้งด้วย Banpo Bridge Rainbow Fountain (반포대교) พบว่าบรรยากาศเป็นใจ เหมาะมาก ไม่เสียตังค์ ได้ชิล อยากกินเบียร์ อยากกินขนม อยากถ่ายรูปก็ไปริมน้ำ ฝนไม่ตก สวรรค์มาก และพบว่าสะพานบันโพนี่สวยดีและปรากฎอยู่ในซีรีส์เกาหลีหลาย ๆ เรื่อง ประทับใจสะพานนี้นะ ถ้ามีโอกาสได้กลับไปอีก ก็จะกลับไปริมแม่น้ำฮันและสะพานนี้บอกเลย

แม้จะไม่มีใครพูดเกาหลีได้เลยสักคำ ยกเว้น อันยอง ซารางเฮ อะจุมม่า อะจอชิ แต่ทริปนี้ก็เป็นทริปกินของจริง พวกเราจัดอาหารเกาหลีทุกมื้อนะ อย่างต่ำก็ Gimbap (김밥) มาม่าเกาหลี Ramyeon (라면) กินกับกิมจิซอง Kimchi (김치) ในเซเว่นหรือไม่ก็ GS25 อร่อยและคู่ควรมาก อยากให้มีแบบนี้ที่ไทยบ้าง อย่างหนัก ถ้าโมโหหิวก็หาร้านอาหารเกาหลีเลยแหละ keyword แนะนำเช่น ต๊อกบอกกิทะเล Tteok-bokki (떡볶이) หมู 3 ชั้นย่างหรือหมูกระทะเกาหลี Samgyeopsal (삼겹살) หมูหรือเนื้อหมัก Bulgogi or Daeji Bulgogi (불고기) ตามด้วยซุปกิมจิ Kimchi-jjigae (김치 찌개) เอาไว้ซดร้อน ๆ อร่อยมาก แต่ที่ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวงก็คงเป็นชิเม็ก Chimaek หรือไก่ทอดและเบียร์ (치맥) นั่นเองอร่อย ได้บรรยากาศตามรอยซีรีส์เกาหลีสุด ๆ ครับ [และก็เพราะชิเม็กนี่แหละที่ทำให้พวกเรามึนกลับห้องทุกคืน เพราะมันมักต่อด้วยโซแม็ก (소맥) หรือโซจูผสมกับเบียร์นั่นเอง เงิบแบบชิลๆ ได้นะจ้า ขอเตือน]

เรื่องป่วง คิดเหรอว่าจะไม่มี ฮามาก ขอเผาหน่อยดังนี้

  • โฮสเทล อย่าเห็นแก่ราคาถูก ที่รีวิวไปของทริปนี้อยู่ใกล้ซับเวย์จริง แต่บริการ ความสะอาด ไม่ได้เลย
  • บัตร T-Money ของเจ้อั๋นหายไป 1 รอบ ต้องค้นกระเป๋ายกใหญ่และซื้อใหม่ ป่านนี้นางน่าจะมี 2 ใบที่ไทยนะเพราะกลับบ้านมาก็ค้นเจอทันที 555
  • บัตร T-money อย่าคิดว่าจะมา refund ที่แอร์พอร์ตเลย มัวแต่หาเอาดาบหน้า พอเข้าไปลึก ๆ ของแอร์พอร์ต ใช้บัตรไม่ได้และไม่มีที่คืนและต้องเอากลับมาเป็นของที่ระลึกเลยจ้า ขำหนักมาก
  • ในร้าน Line Friends พบว่าราคาแพงกว่ากรุงเทพบ้านเรา แม้จะซื้อกระเป๋าสตางค์กลับมาแต่ก็ทำหมอนรองคอพี่บราวน์หายไปที่แอร์พอร์ต ร้องไห้หนักมาก
  • ฤดูร้อนเกาหลี ดอกไม้อย่างดอกข้างทางสีสวยสดมากนะ ดอกที่ประทับใจเช่นดอกทิวลิปก็มี เออ ตอนมาครั้งก่อนเห็นหิมะ ไปเกาะนามิ ไปตกปลาในน้ำแข็งเราเลยไม่มีโอกาสเห็นดอกไม้สีสวย ทริปนี้ก็เก๋ตรงนี้ไปอีกนะ [เออ ทำไมไม่ไปเกาะนามิด้วนเนอะทริปนี้]
  • ของฝากซื้อในเซเว่นและ GS25 เป็น Kimchi (김치) ซองเล็กเต็มกระเป๋าเลยจ้า จบข่าว

สุดท้าย ขอบอกว่าเกาหลีไปง่าย เดินทางไปเที่ยวง่าย สนุกและน่าประทับใจดี [ขอบคุณสมาชิกทริปนี้ พี่อั๋น โจ เจมส์ด้วยนะ โดยเฉพาะเจมส์ที่ต้องมาเจอพวกพี่ป่วง ๆ ตลอดทริป] ดูแผนที่ซับเวย์ให้แตกฉานแล้วก็ไปได้หมดนะ ขนาดพี่อั๋นเงอะ ๆ งะ ๆ ลงผิดออกถูกเกือบทุกสถานี เวลานางต้องเดินทางคนเดียวนางก็กลับมาเจอพวกเราได้ถูกนะ และขอขอบคุณแฮชแท็ก #รีวิวเกาหลี ในทวิตเตอร์ที่เป็นข้อมูลหลักในการหาที่เที่ยวให้กับทริปของพวกเรา ขอขอบคุณ #Sim2Fly จาก AIS ที่ทำให้ส่งไลน์ หาข้อมูลใช้เน็ตได้อย่างดีไม่ติดขัดและทั้งหมดทั้งมวลขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก Korea Tourism Organization ด้วยนะครับ

 

error: Content is protected !!
Scroll to Top